เบอร์รี่และไซเดอร์
วีนีการ์
Berry หรือ เบอร์รี่ จัดเป็นสุดยอดผลไม้
นอกจากรสชาติที่มีการผสมผสานระหว่างความเปรี้ยวและความหวานอย่างเป็นเอกลักษณ์
ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิเช่น วิตามิน และสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง
โดยมีการศึกษาถึงผลดีในการบริโภคเบอร์รี่อย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับว่า
การบริโภคเบอร์รี่ส่งผลต่อความงามและสุขภาพ
ยังมีงานทดลองอีกมากเกี่ยวกับเบอร์รี่
ได้มีการศึกษาผลของสารสกัดจาก Elderberry ต่อการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์
A และ B โดยการกระตุ้นประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน
ในการยับยั้งไม่ให้เชื้อเกาะกับผนังเซลล์เพื่อทำการเพิ่มจำนวนภายในเซลล์ (Heuer
et al., 2008)
ดังนั้นคุณประโยชน์ของเบอร์รี่ยังมีอีกมากและมีการศึกษากันมาอย่างยาวนาน
ซึ่งในปัจจุบันดังจะเห็นได้ว่ามีการนำเบอร์รี่มาบริโภคกันอย่างหลากหลายในรูปแบบต่างๆ
อาทิเช่น บริโภคผลสด นำมาเป็นส่วนผสมในอาหาร และสารผสมในยารักษาโรคต่างๆ
อย่างแพร่หลาย จากการวิจัยพบว่า เบอร์รี่เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น
วิตามิน ที่มีส่วนสำคัญต่อสุขภาพ โดยเฉพาะวิตามินเอ
ช่วยบำรุงสายตาส่งเสริมการมองเห็น และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ธรรมชาติซึ่งช่วยมีส่วนในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ที่ร่วงโรยไปตามวัย
ส่งผลให้ผิวพรรณแลดูอ่อนวัย นอกจากนี้ยังพบว่าการบริโภคเบอร์รี่อาจส่งผลทำให้มีภูมิคุ้มกันในร่างกายดีขึ้นอีกด้วย
ดังนั้น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
จึงจัดเป็นอาหารที่ช่วยทำให้คงความอ่อนเยาว์และยืดอายุของเราให้ยาวนานขึ้น
1. Vattem D.A.,
Ghaedian R. and Shetty K. (2005) Enhancing health benefits of berries through
phenolic antioxidant enrichment: focus on cranberry. Asia Pac J Clin Nutr.
14(2):120-130.
2. Zadernowski R.,
Naczk M. and Nesterowicz J. (2005) Phenolic acid profiles in some small
berries. J Agric Food Chem. 53:2118-2124.
3. Gross P.M. (2006)
Goji’s Dozen friend of eye health. NPI Center. [Online available]:
http://newhope360.com/conditions/gojis-dozen-friends-eye-health (1 December
2011).
4. Schauss A.G., Wu
X., Prior R.L., Ou B., Huang D., Owens J., Agarwal A., Jensen G.S., Hart A.N.
and Shanrom E.(2006) Antioxidant capacity and other bioactivities of the
freeze-dried Amazonian palm berry, Euterpe oleraceae Mart.(Acai). J Agric Food
Chem. 54(2):8604-8610.
5. Heuer M., Clement
K., Shan C. and Thomas M. (2008) Composition for improving immune system
health. Patent Application Publication.
6. Berger J.L., Kayo
T., Vann J.M., Arias E.B. Wang J., Hacker T.A.,Wang Y., Raederstorff D.,
Allison D.B., Morrow J.D., Leeuwenburg C., Saupe K.W., Cartee G.D., Weindruch
R. and Prolla T.A. (2008) A low dose of dietary resveratrol partially mimics
caloric restriction and retards aging parameters in mice. Plos one. 3(6):1-10.
7. Valko M., Leibfritz
D., Moncol J., Cronin M.T.D. and Mazur M. (2007) Free radicals and antioxidants
in normal physiological functions and human disease. Int J Biochem Cell Biol.
39(1):44-84.
8. Ferrari C.K.B.
(2004) Functional foods, herbs and nutraceticals:towards biochemical mechanisms
of healthy aging. Biogerontology. 5:275-289.
9. Reed J. (2002)
Cranberry flavonoids, atherosclerosis and cardiovascular health. Crit Rev Food
Sci Nutri. 42:301-316.
ประโยชน์ของไซเดอร์
วีนีการ์
ไซเดอร์ วีนีการ์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ไซเดอร์ คือ
น้ำส้มสายชูหมักจากน้ำผลไม้ด้วยวิธีการทางธรรมชาติ
ซึ่งทำให้เกิดความแตกต่างจากน้ำส้มสายชูทั่วไป
เนื่องจากน้ำส้มสายชูทั่วไปมักจะผลิตมาจากน้ำตาล หรือผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาล
หลังจากทำการหมักแล้ว จึงนำมาทำการกลั่นให้ได้กรดน้ำส้มที่บริสุทธิ์
ในขณะที่การหมักด้วยน้ำผลไม้ด้วยวิธีธรรมชาติจะทำให้ได้กรดอินทรีย์ที่มีความหลากหลาย
อีกทั้งยังได้แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในน้ำผลไม้
รวมถึงใยอาหารที่ละลายน้ำได้ซึ่งละลายอยู่ในไซเดอร์
จากการศึกษาของ Ebihara และ Nakajima (1988) พบว่าไซเดอร์มีความสามารถควบคุมระดับกลูโคสในเลือดให้คงที่
ทำให้ไม่เกิดความอยากอาหารเนื่องจากการลดลงของระดับกลูโคสในเลือดจะทำให้เกิดความต้องการอาหารและรับประทานอาหารมากขึ้นกว่าปกติ
ส่งผลให้เกิดความอ้วนได้ (Melanson et al., 1999) นอกจากนี้ยังช่วยลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนี้อหลังจากการออกกำลังกาย
ช่วยลดให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น (Mindell, 2002) แร่ธาตุที่มีอยู่มากในน้ำผลไม้
ซึ่งนำมาผลิตมีผลในการรักษาปริมาณมวลกระดูกทำให้มีผลต้านโรคกระดูกพรุน (Mindell
and Johns, 1999)
อ้างอิง :
1. Ebihara K, Nakajima
A. (1988) Effect of acetic acid and vinegar on blood glucose and insulin
responses to orally administered sucrose and starch. Agric Biol Chem.
52:1311–1312.
2. Melanson K.J.,
Westerp-Plantenga M.S.,Saris W.H.M.,Smith F. and Campfield L.A. (1999) Blood
glucose patterns and appetite in time blinded humans :Carbohydrate versus fat.
Am J Physiol Regul Integr Corp Physiol.277:R337-R345.3. Mindell E. and Johns L.M. (1999) Amazing apple cider vinegar. Keats Publishing group Inc.. Illinois, USA.
4. Mindell E. (2002) Dr. Earl Mindell’s Amazing apple cider vinegar. Mc Graw Hill Companies. New York, USA
ข้อมูลจาก website Gifferine
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น